|
ข่าว: ปัสสาวะรดที่นอน
โดย
อชิร ห้องสมุดโรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์
อชิร เมื่อ07:41 23/กรกฎาคม/2563 (4 ปี 11 เดือนที่แล้ว) |
ปัสสาวะรดที่นอน
โดยปกติเด็กอายุ 18 เดือน จะสามารถกลั้นปัสสาวะได้ชั่วขณะ เด็กอายุ 2 ขวบ พอที่สื่อให้ผู้ใหญ่ทราบเมื่อจะถ่ายปัสสาวะ เด็กอายุ 3 ขวบ จะควบคุมปัสสาวะตอนกลางวันได้และสามารถรอที่จะไปถ่ายในที่ๆเหมาะสมโดยไม่มีปัสสาวะราด เมื่ออายุ 4 ขวบ เด็กจะควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะในขณะหลับได้โดยไม่มีปัสสาวะรดที่นอน เด็กสามารถกลั้นปัสสาวะได้นานขึ้น เด็กที่อายุมากกว่า 5 ขวบแล้วยังถ่ายปัสสาวะรดมากกว่า 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน และไม่ได้เป็นผลจากยาหรือโรคทางกายถือว่ามีปัญหาปัสสาวะรดที่นอนน่าจะแก้ไข
สาเหตุ
ปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ปัจจัยต่อไปนี้เป็นปัจจัยที่อาจเกี่ยวข้อง
1.ความล่าช้าในพัฒนาการ
การขับถ่ายปัสสาวะมีพัฒนาการตามขั้นตอน ซึ่งพัฒนาการของเด็กในแต่ละด้านจะช้าหรือเร็วแตกต่างกันในแต่ละคน และพบว่าปัสสาวะรดที่นอนจะหายได้เองเมื่อเด็กอายุมากขึ้น
2.พันธุกรรม
พบว่าเด็กปัสสาวะรดที่นอน 75 % มีพ่อแม่หรือญาติคนใดคนหนึ่งมีประวัติปัสสาวะรดที่นอน เด็กประมาณ45 % มีพ่อหรือแม่มีประวัติปัสสาวะรดที่นอนมาก่อน
3.ความจุของกระเพาะอาหาร
พบว่าเด็กปัสสาวะรดที่นอนเหล่านี้ความจุของกระเพาะปัสสาวะน้อยกว่าปกติและมีความไวต่อการถูกกระตุ้นมากกว่าปกติด้วย กระเพาะปัสสาวะจะบีบตัวขับปัสสาวะออกมาทั้งๆที่ยังเก็บปัสสาวะไม่เต็มที่
4.ความผิดปกติของระดับฮอร์โมน
ในช่วงกลางคืนระดับฮอร์โมนตัวหนึ่งที่เรียกว่า antiaiuretic จะหลั่งออกมาน้อยกว่าปกติ ทำให้มีปริมาณปัสสาวะในตอนกลางคืนมากกว่าเด็กปกติ เด็กจึงปัสสาวะรดที่นอน
5. ปัจจัยด้านจิตใจ
เด็กที่มีแรงกดดันและมีความเครียด จะมีพฤติกรรมถดถอยและปัสสาวะรดได้ เช่น เด็กย้ายโรงเรียน มีน้องใหม่ ถูกทารุณกรรม เป็นต้น
6. การฝึกขับถ่ายที่ไม่เหมาะสม
การฝึกขับถ่ายที่ไม่เหมาะสม เช่น ไม่ฝึกการขับถ่ายเลยหรือฝึกหัดขับถ่ายแต่เข้มงวดจนเกินไป จะทำให้เด็กมีปัสสาวะรดที่นอนได้
การแก้ไข
ปัสสาวะรดที่นอนเป็นปัญหาที่พบบ่อย เด็กอายุ 5 ขวบ จะมีปัญหานี้ประมาณ 15-20% เมื่อเด็กอายุมากขึ้นปัญหานี้จะลดน้อยลง พบว่าประมาณ 15 % ของเด็กเหล่านี้อาการจะหายไปทุกปี เด็กอายุ 12 ปี จะพบปัญหานี้จะลดน้อยลง พบว่าประมาณ 15% ของเด็กเหล่านี้อาการจะหายไปทุกปี เด็กอายุ 12 ปี จะพบปัญหานี้เพียง 1-2% ดังนั้นมีวิธีช่วยเหลือง่ายๆดังนี้
1.งดการล้อเลียน ตำหนิหรือลงโทษเด็กอย่างรุนแรง
2.งดน้ำ นม น้ำหวานและเครื่องดื่มทุกชนิดก่อนนอน ประมาณ 1-2 ชั่วโมง
3.ปัสสาวะก่อนเข้านอน
4.ถ้ายังมีปัสสาวะรดที่นอนอีก สังเกตดูว่าเด็กปัสสาวะตอนกลางวฃดึกหรือใกล้สว่าง ให้ปลุกเด็กขึ้นมาปัสสาวะกลางดึกอีกครั้ง ก่อนถึงเวลาที่เด็กปัสสาวะรด
5.ถ้าเด็กไม่ปัสสาวะรดที่นอน ควรให้รางวัลอาจจะเป็นสติกเกอร์ หรือคะแนนสะสมไว้เพื่อแลกรางวัล เช่น ดินสอ ขนม หรือของเล่นตามที่ตกลงกันไว้
ถ้าทำทุกวิธีอย่างถูกต้องแล้วยังมีปัญหานี้อยู่ให้ประเมินดูอีกครั้งว่าเด็กได้ทำตามข้อ 1-4 หรือไม่ และลองทำตามขั้นตอน 1-4 ดูอีกครั้งและถ้ายังไม่ดีขึ้นให้ปรึกษาแพทย์
|
|