เปลี่ยนเป็นภาษาไทย

Change to English
 ข่าว
  กลับหน้าหลัก
ข่าวทั้งหมด 58
ข่าวที่ปัจจุบัน 0
ข่าว: แผ่นพับความรู้ทางวิชาการ โดย กลุ่มงานสังคมสงเคราะห์
  โดย
อชิร
ห้องสมุดโรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์
อชิร

  เมื่อ09:14 1/กรกฎาคม/2563 (5 ปี 10 วันที่แล้ว)
กลุ่มงานสังคมสงเคราะห์
              การจัดทำแผ่นพับความรู้ทางวิชาการ 7 เรื่องได้แก่
  1. พฤติกรรมสุขภาพ
  2. การเลี้ยงลูกให้มีคุณภาพ
  3. การดูแลสุขภาพสำหรับผู้ใช้แรงงาน
  4. การนอน...ใครว่าไม่สำคัญ
  5. สตรีวัยหมดประจำเดือน
  6. ผู้ชายวัยทอง
  7. โรคปวดศีรษะ”ไมเกรน”
เหตุผลการจัดทำ
           จากการสัมภาษณ์แรกรับพบว่า ผู้มาขอรับบริการส่วนใหญ่ขาดความรู้ในหัวข้อเรื่องดังกล่าว เพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้และประหยัดเวลาในการสัมภาษณ์แรกรับ จึงคิดรูปแบบการจัดทำแผ่นพับทางวิชาการ เพื่อแจกแก่ผู้มาใช้บริการแต่ละราย ตามความต้องการของผู้มารับบริการ
เอกสารอ้างอิง
  1. วารสารยุวประสาท. การฝึกนิสัยการนอนที่ดีให้ลูก. ปีที่6 ฉบับที่ 1 มกราคม-เมษายน 2539,หน้า 16-19.
  2. หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ. ฉบับวันที่ 25 เมษายน 2545 หน้า 7.
  3. แผ่นพลิกชุด “อนามัยแม่และเด็ก” สำหรับผดุงครรภ์โบราณอบรมฟื้นความรู้.
  4. จดหมายข่าวโรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์. ปีที่ 2 ฉบับที่ 11 ประจำเดือนพฤษภาคม 2545 คอลัมภ์ “นอนหลับไม่สนิท ควรทำอย่างไร”
  5. หนังสือพิมพ์มติชน. ฉบับวันที่ 3 พฤษภาคม 2545. หน้า 18 คอลัมภ์ “งานอุตสาหกรรมในครัวเรือนกระทบร่างกาย ประชุมอาชีวอนามัย-ทำคู่มือสุขภาพ”.
  6. หนังสือพิมพ์เดลินิวส์.ฉบับวันที่ 1 กันยายน 2545.หน้า 6 คอลัมภ์ “ปวดศีรษะไมเกรน”
  7. หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ.ฉบับวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2543.หน้า 1 คอลัมภ์ “เรื่องกลุ้มใจของผู้ชายวัยทอง”.
พฤติกรรมสุขภาพ
          ชีวิตประจำวันของคนเราทุกวันนี้ บางทีเรามีพฤติกรรมทำร้ายตนเอง หรือทำให้ตนเองป่วยโดยไม่รู้ตัว ยกตัวอย่างเช่น วัยรุ่นกลัวอ้วนรับประทานอาหารอิ่มแล้วใช้นิ้วล้วงคอเพื่อให้อาเจียน ทำเช่นนี้สม่ำเสมอ จนวันหนึ่งหลังจากรับประทานอาหารก็อาเจียนออกมาเองโดยอัตโนมัติ และจากวันนั้นร่างกายก็ยังมีปฏิกิริยาเช่นนี้มาตอลดคือ อาเจียนทุกครั้งที่รับประทานอาหาร จนในที่สุดร่างกายผอมซูบซีดไม่มีแรง ต้องเข้ารับการรักษา บางรายด้วยนิสัยขี้เหนีบวจนลืมวัยของตนเองว่าอยู่ในวัยสูงอายุ ควรบริโภคอาหารที่ย่อยง่าย แต่ผู้สูงอายุท่านนี้กลับซื้อฝรั่งมารับประทานเป็นเวลานานนับเดือน จนในที่สุดเกิดปัญหาไม่ขับถ่ายหลายวัน จนต้องไปพบแพทย์ เด็กบางคนไม่ได้รับการฝึกนิสัยเรื่องการขับถ่าย รอให้ของเก่าสะสมอัดแน่นกันมากๆ จนค่อยๆ ขับเคลื่อนดันกันออกมาเอง จนกลายเป็นคนที่อุจจาระติดกางเกง และท้องผูกเป็นประจำ บางรายนอนดึกเป็นนิสัย นอนเที่ยงคืนเป็นประจำแม้ขณะตั้งครรภ์ก็ยังคงนอนเที่ยงคืน ซึ่งผลเสียของการนอนดึกมีมากมาย เพราะการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยให้กลไกการทำงานของร่างกายเป็นปกติ
          ตัวอย่างที่กล่าวมานี้แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่ดี ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบร่างกายทำให้มีปัญหาสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องให้ความสำคัญดูแลตนเองว่าเรามีพฤติกรรมสุขภาพดีหรือไม่ ทั้งเรื่องการรับประทานอาหาร การขับถ่าย การนอน การออกกำลังกาย การทำงาน ตลอดจนการให้เวลากับสุขภาพจิตตนเองและครอบครัว เรื่องพฤติกรรมสุขภาพนี้ ถ้าไม่ให้ความสำคัญก็ดูจะเป็นเรื่องไม่สำคัญ แต่ถ้าพิจารณาให้ละเอียดจะพบว่า พฤติกรรมสุขภาพนี้ ถ้าไม่ให้ความสำคัญก็ดูจะเป็นเรื่องไม่สำคัญ แต่ถ้าพิจารณาให้ละเอียดจะพบว่า พฤติกรรมสุขภาพมีความสำคัญมากต่อคุณภาพชีวิตทั้งด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิต

สตรีวัยหมดประจำเดือน
อายุ สตรีอายุประมาณ 45-55 ปี บางรายอาจเร็วกว่านี้
อาการ เมื่อฮอร์โมนลดลงสตรีในวัยหมดประจำเดือนจะเกิดอาการ
  1. ประจำเดือนมาบ้างไม่มาบ้าง
  2. ร้อนวูบวาบตามร่างกาย คอ หน้าจะแดง
  3. เหงื่อออกมาก ถ้าเป็นในช่วงกลางคืนอาจทำให้ไม่สบายตัว หงุดหงิด นอนไม่หลับ และอ่อนเพลีย
  4. ใจสั่น ใจเต้นโครมคราม มีอาการมากเวลาเหนื่อยหรือเครียด
  5. ข้อต่อยึดแข็ง งอนิ้วงอเข่าไม่สะดวก เจ็บโน่นปวดนี่ กล้ามเนื้อทั้งตัวทำงานช้าลง กล้ามเนื้อฝ่อตัวเรี่ยวแรงถอย กล้ามเนื้อคอแข็งเกร็งปวดเจ็บ
  6. น้ำหนักตัวเพิ่มโดยเฉพาะอย่างยิ่งรอบเอว และหน้าท้อง ควรออกกำลังกายมากขึ้น และจำกัดอาหาร
  7. ผิวหนังเหี่ยวย่น ท้องอืดเฟ้อมีลมมาก ท้องผูก
  8. ความจำเสื่อม ยกเว้นในเรื่องวัยเด็ก
  9. อารมณ์ซึมเศร้า ควรเอาใจใส่เป็นพิเศษ
  10. เยื่อบุปัสสาวะบางลง ความยืดหยุ่นน้องลง ทำให้ปัสสาวะบ่อย เกิดอาการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะง่าย และบางทีมีปัสสาวะเล็ดเวลาไอ จาม หรือหัวเราะ
  11. มีโอกาสเป็นโรคหัวใจมากขึ้น กระดูกบางลง กระดูกพรุนและหักได้ง่าย
ลักษณะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างกาย
 
         เนื่องจากการลดลงของฮอร์โมนมีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ดังนี้
  1. กระดูกผุ หลังงอ กระดูกเปราะหักง่าย ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอก่อนเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน
  2. ผนังช่องคลอดบางลง หดแคบยืดหยุ่นไม่ดี อาจมีเลือดออก ติดเขื้อได้ง่าย ควรใช้เจลหรือฮอร์โมนที่เป็นครีมทาช่องคลอด
  3. ผนังกระเพาะปัสสาวะบางลง ความยืดหยุ่นลดลง ทำให้กลั้นปัสสาวะไม่อยู่เวลาไอ จาม อาจมีการติดเชื้อหรือกระเพาะปัสสาวอักเสบ
  4. มีขนขึ้นตามคาง ริมฝีปาก เนื่องจากฮฮร์โมนหญิงลดลงฮอร์โมนขายเด่นขึ้นมา
ข้อควรปฏิบัติ
  1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เดินเร็วๆ ใช้รองเท้าที่เหมาะสม
  2. หลีกเลี่ยงความเครียดโดยมีทัศนคติที่ดีในการดำเนินชีวิต
  3. กินอาหารรสไม่จัด ไขมันไม่เกิน 10 % ในแต่ละมื้อ
ผู้ชายวัยทอง
อาการ ผู้ชายที่เข้าสู่วัยสี่สิบปลายๆ ถือได้ว่าเป็นผู้ชายวัยทอง เพราะมักเป็นวัยที่ผู้ชายมีความั่นคงทั้งการงานและครอบครัว ถือว่าเป็นวัยที่ประสบความสำเร็จและมีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงเรียกว่า “วัยทอง”
อาการ ผู้ชายวัยทองจะมีอาการต่างๆ อันเป็นผลจากการลดลงของฮอร์โมน แต่จะมีอาการค่อยเป็นค่อยไปไม่เกิดขึ้นรวดเร็วและมีอาการมากเหมือนสตรีวัยหมดประจำเดือน
อาการและผลกระทบ เมื่อฮฮร์โมนเพศชายลดลง จะมีผลกระทบต่ออวัยวะส่วนต่างๆ ที่มีส่วนสัมพันธ์กับฮอร์โมนเพศชาย จะก่อให้เกิดอาการทางร่างกายและมีผลกระทบต่อสังคม อารมณ์จิตใจตลอดจนสติปัญญา กล่าวคือ
ด้านร่างกาย จะมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยตามร่างกายโยไม่มีสาเหตุ ไม่กระฉับกระเฉง กล้ามเนื้อลีบเล็กลงและแข็งแรงน้อยลง กระดูกบางลงอาจเป็นโรคกระดูกพรุนได้ อวัยวะเพศเรื่มไม่แข็งตัวในช่วงตอนเช้า ความถี่ของการมีเพศสัมพันธ์ ความถี่ในการถึงจุดสุดยอดรวมทั้งคงามพึงพอใจในการมีเพศสัมพันธ์ลดลงไป การเผาผลาญไขมันจะลดลง ชายวัยทองจึงมักลงพุง
ด้านสังคม อารมณ์จิตใจตลอดจนสติปัญญา ผู้ชายส่วนใหญ่มักจะนำเอาความสามารถและสมรรถภาพทางเพศมาเกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต ดังนั้นเมื่อความสามารถทางเพศลดลง จึงมักทำให้คุณภาพชีวิตด้านสังคมลดลงไปด้วย นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจและอารมณ์ที่เกิดขึ้นในผู้ชายวัยทองจะเป็นสิ่งซ้ำเติมให้คุณภาพชีวิตลดลงไปอีกมาก
ปัจจัยกระตุ้น ปัจจุบันผู้ชายฮอร์โมนลดลงเร็วขึ้นกว่าในอดีตด้วยปัจจัยกระตุ้น 2 ปัจจัย คือ
  1. สภาพแวดล้อม
  2. การดำเนินชีวิตประจำวัน
1.สภาพแวดล้อม ประกอบด้วยสารเคมีต่างๆ ที่เป็นพิษ เช่น สารเคมีจากยาฆ่าแมลง ดีดีที ประกอบกับสภาพตึกสูงทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เกิดฝ้าอากาศ ซึ่งล้วนแต่เป็นสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษต่อร่างกาย
2.การดำเนินชีวิต ได้แก่
          -การทำงานมากมีผลทำให้ร่างกายใช้พลังงานมากขึ้น จึงเกิดของเสียจากการเผาผลาญอาหารหรือเป็นพลังงานที่เรียกกันว่า อนุมูลอิสระ ซึ่งจะไปทำลายเนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ ให้เสื่อมก่อนวัย
          -การพักผ่อนน้อย นอนดึก การพักผ่อนไม่เพียงพอ มีผลทำให้ระบบการหลั่งฮอร์โมนจากสมองลดลง ซึ่งมีผลทำให้ฮอร์โมนเพศลดลงด้วย
          -ภาวะทุโภชนาและการขาดการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารไม่ถูกต้อง ไม่ครบหมวดหมู่ ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นในการสร้างฮอร์โมนเพศชาย และสร้างความแข็งแกร่งของเนื้อเยื่อ
          -การสูบบุหรี่ ดื่มสุรา เสพยาเสพติด เป็นปัจจัยเร่งความเสื่อมของเนื้อเยื่อ
          -การรัดแน่น หรือถูกของร้อนทำให้ลูกอัณฑะมีอุณหภูมิสูงขึ้น จะมีผลทำให้การผลิตฮอร์โมนลดลง

ข้อควรปฏิบัติสำหรับผู้ชายวัยทอง
         ควรพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา อาจได้รับฮอร์โฒนเสริม นอกจากนี้ก่อนที่จะถึงวัยทอง ควรมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี คือ นอนหัวค่ำ เพราะฮอร์โมนเพศชายสร้างตอนเวลากลางคืน กินอาหารที่มีคุณค่า ถูกหลักโภชนาการ ขับถ่ายเป็นเวลาไม่ปล่อยให้ท้องผูก ออกกำลังกายสม่ำเสมอ มองโลกในแง่ดี มีทัศนคติที่ดีในการดำเนินชีวิต มีอารมณ์ขัน งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
การดูแลสุขภาพสำหรับผู้ใช้แรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม
         ผู้ใช้แรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม เช่น บางคนทำหน้าที่นั่งเย็บผ้าทั้งวัน บางวันทำล่วงเวลาถึงค่ำ และเมื่อทำงานซ้ำๆ เป็นเวลานาน บางรายทำมา 10 ปี มักจะมาขอรับบริการด้วยอาการปวดศีรษะ ตึงท้ายทอย ปวดหลัง ซึ่งปัญหาสุขภาพเหล่านี้ส่วนหนึ่งมาจากการทำงานซ้ำๆ เป็นเวลานานๆ และมีเวลาพักผ่อนไม่เหมาะสม บางรายอาจมีนิสัยการบริโภคไม่เหมาะสมร่วมด้วย คือ รับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ และขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
          ปัญหาสุขภาพในผู้ใช้แรงงานเหล่านี้ สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐาน เรื่องการรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะเหมาะกับวัย การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ และควรหาเวลาเพื่อพักผ่อนคลายกล้ามเนื้อบ้าง

การเลี้ยงลูกให้มีคุณภาพ
          เริ่มตั้งแต่คุณแม่ตั้งครรภ์จนถึงการเลี้ยงดูในวัย 6 ขวบแรก
          ระยะคั้งครรภ์ คุณพ่อควรดูแลเอาใจใส่ใกล้ชิด เพราะคนมีครรภ์จะทำอะไรไม่สะดวก จะลุกจะนั่งจะเดินไม่สะดวกเหมือนตอนเป็นสาวเอวบางร่างน้อย ดังนั้นคุณแม่จึงต้องการใครสักคนคอยห่วงใยเอาใจบ้างพอสมควร และใครคนนั้นก็น่าจะเป็นคุณพ่อของลูกนั่นแหละ ใช่เลย****
           ระยะลูกวัย 0-6 ขวบ เป็นวัยที่เรียกว่าเด็กเปรียบเหมือนผ้าขาว พ่อแม่แต่งแต้มสีอะไรไปก็จะได้อย่างนั้น เป็นวัยที่บุคลิกภาพอุปนิสัยใจคอของแต่ละคนจะถูกปลูกฝังถูกสร้างขึ้นเป็นที่เรียบร้อย และในวัยนี้แหละที่จะได้เห็นว่า “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” เป็นเรื่องจริง คุณแม่หลายรายจูงลูกมารักษาบอกว่า ลูกก้าวร้าว อารมณ์รุนแรง โมโหร้าย หงุดหงิดง่าย แต่ตลอดระยะเวลา 1 ชั่วโมงที่นักสังคมสงเคราะห์ทำการสัมภาษณ์แรกรับพบว่า ลูกไม้หล่นไม่ไกลจ้นจริงๆ ดังนั้นท่านอยากให้ลูกท่านเป็นเช่นไร ท่านต้องเป็นเช่นนั้นก่อน ดังที่มีคนเคยกล่าวว่า พ่อแม่เป็นครูคนแรกของลูก นั่นแหละ
          นอกจากนี้การให้ความอบอุ่น การให้ความรักอย่างเป็นรูปธรรมแก่เด็กเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง พ่อแม่บางคนไม่เคยกอดลูกเลย เป็นเรื่องเศร้าที่เกิดขึ้นจริง เด็กที่เติบโตแบบไร้สุขทางกายและใจขาดการสัมผัส การกอด ก็จะมีความบกพร่องทางอารมณ์และพฤติกรรมให้เห็นได้เช่นกัน
          ดังนั้น การเลี้ยงลูกให้มีคุณภาพจึงต้องเลี้ยงอย่างตั้งอกตั้งใจ ใส่ใจอาทรต่อกันและกัน ทั้งระหว่างพ่อกับแม่ และพ่อแม่กับลูก ตลอดจนมีระบบความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว


 Union Library Management : ULibM
Copyright 2025. All Rights Reserved.