LEADER 00000nam 2200000uu 4500 |
001 10361 |
003 ULIBM |
008 020711s2559 th a 000 0 tha d |
060 ว.WM30 ส663 2559
|
100 สายสุดา สุพรรณทอง
|
245 ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความไม่ร่วมมือในการรักษาของผู้ป่วยนอกในโรคจิตเภท สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา : รายงานการวิจัย/สายสุดา สุพรรณทอง
|
260 กรุงเทพฯ:^bสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา,^c2559
|
300 42 หน้า
|
550 วัตถุประสงค์ : เพื่อหาความชุกของการไม่ร่วมมือในการรักษา และสำรวจปัจจัยที่ทำให้ผู้ป่วยมารับการรักษาไม่สม่ำเสมอที่ห้องผู้ป่วยนอกในโรคจิตเภท สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา
|
550 ัสดุและวิธีการ : การวิจัยนี้เป็นการศึกษาเชิงวิเคราะห์แบบเก็บข้อมูล ณ จุดเวลาใดเวลาหนึ่ง (Cross-sectional study) โดยศึกษาจากการสัมภาษณ์ผู้ป่วยและเก็บข้อมูลบางส่วนจากเวชระเบียนของผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคจิตเภทจากการรักษาแบบผู้ป่วยในที่สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา ระหว่าง มิถุนายน 2559-สิงหาคม 2559 จำนวน 224 ราย โดยใช้แบบเก็บข้อมูลที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยต่าง ๆ ที่ต้องการศึกษาโดนสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน, Independent-samples t test และ Chi square test
|
550 ลการศึกษา : กลุ่มตัวอย่างจำนวนเพศชายและเพศหญิงในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน อายุเฉลี่ยกลุ่มตัวอย่างอยู่ที่ 43.58=11.35 ปี, มีภูมิลำเนาอยู่ที่กรุงเทพ (60.71%), มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายปวช/ปวส/ (31.69%), ไม่มีโรคประจำตัว (75.89%), ส่วนใหญ่ไม่ใช้เสพติด (82.14%), มาตามนัดเป็นประจำ (63.30%), ไม่เคยลืมกินยา (68.30%) และในเรื่องความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความเจ็บป่วยและการรักษา กลุ่มที่ไม่ร่วมมือในการรักษาได้คะแนนเฉลี่ยมากกว่าสำหรับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์ผู้รักษาและผู้ป่วยพบว่าส่วนใหญ่ใช้เวลาพูดคุยกับแพทย์กลุ่มที่ไม่ร่วมมือในการรักษาได้ระยะเวลาเฉลี่ยมากกว่า และส่วนมากที่ได้รับการรักษาต่อเนื่องของแพทย์ผู้รักษาที่เป็นคนเดิม (60.30) ในด้านข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมของกลุ่มตัวอย่าง ส่วนใหญ่โสด, มีญาติคอยดูแล, มีความสัมพันธ์ระหว่างญาติกับผู้ป่วยเป็นไปในทางที่ดี, มีญาติสนับสนุนการรักษาพยาบาล, ชำระเงินเองในส่วนของค่ารักษาพยาบาล, ไม่มีอาชีพ และในไม่มีปัญหาในการเดิน สำหรับข้อมูลที่เกี่ยวกับการรักษาพบว่าส่วนมากได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคจิตเภทโดยมีกลุ่มอาการย่อยเป็นแบบ paranoid, ไม่มีโรคร่วมทางจิตเวช, ไม่ได้รับยารักษาโรคจิตชนิด long acting, ใช้ยากลุ่มเก่าในการรักษา, ได้รับยารักษาโรคจิตขนาดไม่เกิน 1,000 mg/day เมื่อเทียบเป็น Chlorpromazine equivalent dose, มักได้รับยา 3 ขนาน, ส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ยา, มักได้รับยา 3 มื้อต่อวัน, จำนวนเม็ดยา(ต่อวัน) กลุ่มที่ร่วมมือในการรักษาได้จำนวนเม็ดยาเฉลี่ยมากกว่า ส่วนในเรื่องจำนวนครั้งในการนอนโรงพยาบาลที่ผ่านมา กลุ่มที่ร่วมมือในการรักษามีจำนวนครั้งเฉลี่ยมากกว่า ในด้านระยะเวลาในการรักษา กลุ่มที่ร่วมมือในการรักษามีระยะเวลาเฉลี่ยมากกว่า
|
550 รุป : ความชุกของผู้ป่วยที่ไม่ร่วมมือในการรักษาจำนวน 27 คน คิดเป็นร้อยละ 12.05 และมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความไม่ร่วมมือในการรักษาที่มีนัยสำคัญทางสถิติคือ ผู้ป่วยไม่มาพบแพทย็ตามนัด, ความถี่ในการลืมกินยา, ระยะเวลาในการพูดคัยระหว่างแพทย์และผู้ป่วย, ผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการรักษา
|
650 สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา^xผู้ป่วยนอก^yวิจัย
|
650 ผู้ป่วยจิตเภท^xวิจัย
|
999 ^aขจีนิภา เมธีวรกุลกิจ
|